PM2.5 ภัยร้ายตัวจิ๋ว อันตรายต่อสุขภาพ
ทำความรู้จักกับ PM2.5
ฝุ่น PM2.5 หรือชื่อเต็มคือ Particulate matter with diameter of less than 2.5 micron เป็นฝุ่นละออง ขนาดจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน เป็น 1 ใน 8 ตัว วัดมาตรฐานคุณภาพอากาศในบรรยากาศ
ความร้ายแรงของ PM2.5 คือ มันสามารถผ่านการกรองของขนจมูกและเข้าสู่ชั้นในสุดของปอดได้ แม้ฝุ่น PM2.5 จะไม่ได้เป็นอันตรายต่อ ร่างกายแบบเฉียบพลัน ต้องใช้เวลาสะสมนับสิบปีถึงจะแสดงผล อันตรายจากฝุ่น PM2.5 คือ มันสามารถทำหน้าที่เป็นตัวกลางพาสารอื่นๆ เข้าสู่ปอดด้วยการให้สารเหล่านั้นมาเคลือบบนผิวของมัน เช่น สารก่อมะเร็ง สารโลหะหนัก เป็นต้น
ปกติแล้วฝุ่น PM2.5 จะเกิดขึ้นมากในช่วงที่เปลี่ยนฤดูกาล จากฤดูหนาวสู่ฤดูร้อน ในช่วงปลายฤดูหนาวของทุกปี ซึ่งในช่วงนี้จะส่งผลกระทบให้ผู้ป่วยโรคทางระบบหายใจ และโรคอื่นๆ เพิ่มมากขึ้น เราจึงควรทำความ เข้าใจในเรื่องผลกระทบของมลพิษทางอากาศต่อสุขภาพ และแนวทางการป้องกัน เพื่อลดความตื่นตระหนก และเตรียมรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นอย่างรู้เท่าทัน
ต้นเหตุหลักที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5
2. อากาศพิษจากปล่องโรงงานอุตสหกรรมและโรงไฟฟ้า การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือ เชื้อเพลิงที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะถ่านหิน
3. การเผาในที่โล่ง และในที่ไม่โล่ง การเผาเศษวัสดุเหลือใช้ของภาคการเกษตรเพื่อเตรียมการเพาะปลูก การเผาป่า และการเผาขยะ
ผลกระทบของ PM2.5 ที่มีต่อสุขภาพ
1. การสัมผัสในระยะสั้น
- ทางเดินหายใจอักเสบหายใจลำบากแสบจมูกไอมีเสมหะแน่นหน้าอกถุงลมแฟบสมรรถภาพปอดลดลงภูมิแพ้และหืดกำเริบ
- ทำลายภูมิคุ้มกัน เกิดการติดเชื้อในปอด และทางเดินหายใจได้ง่าย เช่น ไข้หวัดใหญ่, หลอดลมอักเสบ, หูอักเสบ
- พัฒนาการเด็กล่าช้า
- ผลต่อระบบสืบพันธุ์ ทำให้มีบุตรยาก
- โรคมะเร็งปอด
- การอักเสบของเส้นเลือดอาจเกิดโรคหัวใจขาดเลือดโรคอัมพาตจากหลอดเลือดสมองความดันโลหิตสูงเบาหวาน
- โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง
- โรคทางผิวหนังหรือตาอักเสบ
- ผิวมีจุดด่างดำและรอยย่น ดูแก่กว่าวัย

วิธีป้องกันฝุ่น PM2.5
- สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น หน้ากาก N95 หรือ KN95 มีความสามารถในการกรองฝุ่น PM 2.5 ได้ดี ควรสวมใส่เมื่อต้องออกจากบ้านในพื้นที่ที่มีฝุ่นสูง
- หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมนอกบ้านโดยเฉพาะในวันที่ค่าฝุ่นสูง ตรวจสอบคุณภาพอากาศผ่านแอปหรือเว็บไซต์ที่แสดงดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI)
- ใช้เครื่องฟอกอากาศ การใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นขนาดเล็กจะช่วยลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน ทำให้อากาศสะอาดขึ้น
- ปิดประตูหน้าต่างให้มิดชิด ป้องกันฝุ่นจากภายนอกเข้ามาภายในบ้าน โดยการปิดประตู หน้าต่าง หรือใช้ผ้าปิดรูระบายอากาศที่อาจมีฝุ่นเข้าได้
- ล้างหน้าหรือทำความสะอาดตัวหลังออกข้างนอก เมื่อกลับจากนอกบ้าน ควรล้างหน้า ล้างมือ และเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลดการสะสมฝุ่นบนร่างกาย
การดูแลสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ด้วยศาสตร์การแพทย์ไทย-จีน
ศาสาตร์การแพทย์แผนไทย
ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชนเช่นโรคทางเดินหายใจและอาการทางผิวหนังแนะนำให้ใช้ตำรับยาสมุนไพรที่หาได้ง่ายเพื่อบรรเทาอาการที่มีผลกระทบต่อสุขภาพในสถานการณ์ดังกล่าวเช่น
ระบบทางเดินหายใจใช้ตำรับยาปราบชมพูทวีป ซึ่งเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ปัจจุบันได้พัฒนายาให้เป็นชนิดแคปซูล/เม็ดเพื่อรับประทานได้ง่ายเหมาะสำหรับอาการภูมิแพ้ระยะแรกเริ่ม
หากมีอาการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจสามารถใช้สมุนไพรกลุ่มชาหญ้าดอกขาวชงดื่มหลังอาหารวันละ 3 ครั้ง เพื่อลดอาการ ควรระวังในการใช้กับผู้ป่วยโรคหัวใจ โรคไต เนื่องจากในหญ้าดอกขาวมีโพแทสเซียมสูง
อาการทางผิวหนังเช่นผดผื่นคันสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของพลู พญายอ บัวบก ขมิ้นชัน ว่านหางจระเข้ และทองพันชั่ง ทาบริเวณที่มีอาการก็จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการทำงานและการออกกำลังกายกลางแจ้งหากจำเป็นควรออกกำลังกายภายในอาคารเลี่ยงฝุ่นและควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อต้องออกไปกลางแจ้ง
ศาสาตร์การแพทย์แผนจีน
ในช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5 มาก จะส่งผลกระทบต่ออวัยวะปอดและระบบทางเดินหายใจ ตามทฤษฎีปัญจธาตุของศาสตร์การแพทย์แผนจีนสีขาวจะสัมพันธ์กับอวัยวะปอดดังนั้นอาหารที่มีสีขาวตามธรรมชาติจะช่วยบำรุงปอดเช่นสาลี่ช่วยระบายความร้อนสร้างสารน้ำให้ความชุ่มชื้นแก้กระหายน้ำคอแห้งแก้ไอขับเสมหะ
ในทางวิทยาศาสตร์สาลี่มีวิตามิน C K B1 และ B2 สารกลุ่มฟลาโวนอยด์และสารประกอบฟีโนลิค ซึ่งช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ อาหารสีขาวอื่นที่มีน้ำเยอะๆ ผสมอยู่ก็จะช่วยลดเสมหะและการไอได้ เช่น แห้ว หัวไชเท้า และสามารถบำรุงปอดได้เช่นกัน
อีกทั้งการแพทย์แผนจีนยังแนะนำการนวดกดจุดเพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์จากฝุ่น PM 2.5 ดังนี้
- จุดอิ๋งเซียง เป็นจุดรักษาโรคที่เกิดจากลมภายนอกเข้ามากระทบร่างกาย โดยจุดอยู่บนร่องแก้มระดับเดียวกับกึ่งกลางปีกจมูก ใช้นิ้วชี้กดที่จุดอิ๋งเซียงทั้งสองข้าง กดนวดวนเป็นวงกลมพร้อมกันหรือทีละข้าง ข้างละ 36 ครั้งช่วยลดอาการคัดจมูกเสริมภูมิคุ้มกันเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดบริเวณรอบจมูกหากนวดเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคหวัดได้
- จุดเลี่ยเชวีย อยู่ที่ข้อมือทั้ง 2 ข้าง ตรงรอยบุ๋มที่ข้อมือด้านนิ้วหัวแม่มือ เหนือรอยเส้นพับข้อมือ 2 นิ้วทาบ (นิ้วชี้และนิ้วกลาง) กดโดยใช้ปลายนิ้วที่ถนัดฝั่งตรงข้าม กดจนรู้สึกตึงหน่วง ประมาณข้างละ 10 วินาทีจะช่วยทะลวงลมปราณปอดขับปัจจัยก่อโรคออกจากระบบทางเดินหายใจช่วยลดอาการไอหอบเจ็บคอ
- จุดเหอกู่ อยู่บริเวณเนินง่ามนิ้วมือระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ทั้ง 2 ข้าง ใช้นิ้วที่ถนัดฝั่งตรงข้าม กดจนรู้สึกตึงหน่วงประมาณ 10-20 วินาทีต่อครั้ง จากนั้นสลับข้างกดไปมา ให้ได้ข้างละ 3-5 ครั้งจะช่วยกระจายชี่ปอดปรับสมดุลการไหลเวียนลมปราณบำรุงปอดขจัดเสมหะ
สรุป
ฝุ่น PM2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กที่สามารถเข้าสู่ปอดและสะสมในร่างกาย ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจ มะเร็งปอด และโรคหัวใจ ต้นเหตุหลักมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การจราจร และการเผาในที่โล่ง วิธีป้องกันได้แก่ การสวมหน้ากาก N95 ใช้เครื่องฟอกอากาศ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมนอกบ้าน โดยศาสาตร์การแพทย์แผนไทย-จีน แนะนำวิธีการรดูแลตนเองง่ายๆ แพทย์แผนไทยแนะนำสมุนไพร เช่น ยาปราบชมพูทวีป และหญ้าดอกขาว ส่วนแพทย์แผนจีนแนะนำอาหารสีขาว เช่น สาลี่ และการนวดกดจุดเพื่อบำรุงปอดและลดอาการไอ ก็จะช่วยลดอาการไม่พึงประสงค์จาก PM2.5 ได้
_________________________________________________________________________________
ขอบคุณข้อมูล
กลุ่มเฝ้าระวังฝุ่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : https://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2019/10/chula-pm25-booklet-1.pdf
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย : https://tmc.or.th/pdf/tmc_knowlege-90.pdf
กรมประชาสัมพันธ์ : https://www.prd.go.th/th/content/category/detail/id/31/iid/331093
กรมการแพทย์แผนไทยและกรมการแพทย์ทางเลือก : https://www.facebook.com/share/1CuPcNQb6D